ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความท้าทาย

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความท้าทาย

ตอนก่อนหน้าที่ผ่านมาคนเขียนได้ได้โอกาสฟังบทสัมภาษณ์ของผู้ว่าการธนาคารชาติในหลายเวที ซึ่งได้ให้มุมมองภาพเศรษฐกิจในตอนที่เหลือของปีนี้ว่าจะไปในแนวทางใด 

เศรษฐศาสตร์ มีใจความสำคัญใดบ้างที่จำเป็นต้องจับตา บางขุนพระพรหมเชื้อเชิญคิดในวันนี้ก็เลยขอนำเรื่องนี้มาเล่าให้กับท่านคนอ่านในวันนี้จ้ะ ในตอน 2-3 ปีให้หลัง เศรษฐกิจไทยพบเจอกับหลายความท้า เริ่มตั้งแต่ วิกฤติวัววิด-19 ในปี 2563-2564 ที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วทั้งโลกหยุดชะงัก เศรษฐกิจไทยได้รับผลพวงมากมายเพราะเหตุว่าพึ่งพาอาศัยนักเดินทางต่างประเทศสูง ซึ่งเมื่อวัววิดเริ่มคลี่คลาย เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นได้กลับได้รับผลจาก การทำศึกระหว่างรัสเซียและก็ยูเครน ที่ทำให้ราคาน้ำมัน ราคาผลิตภัณฑ์ของกินของใช้ในตลาดโลกและก็เงินเฟ้อทั้งโลกรวมทั้งเงินเฟ้อไทยรีบสูงมากขึ้นสม่ำเสมอ กระทั่งธนาคารกลางหลายที่ทั้งโลกพร้อมใจกลมเกลียวขึ้นดอกเร็วแล้วก็แรง นำมาซึ่งการทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ปรับแข็งค่ามากยิ่งขึ้น แล้วก็เงินบาทอ่อนค่ามากมายสุดในรอบนับเป็นเวลาหลายปี ยิ่งไปกว่านี้ ภาวการณ์การคลังที่ตึงตัวขึ้น จนกระทั่งกำเนิดปัญหา น้ำลด โคนผุด” น้ำที่ลดมาจากการที่คงจะดอกในระดับที่ค่อนข้างต่ำเป็นระยะเวลานาน ก่อเรื่องต่างๆก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมองเห็น เพราะเหตุว่าสภาพคล่องสูง ดอกต่ำ แม้กระนั้นเมื่อน้ำลงรวมทั้งลงเร็วจากดอกที่ขึ้นแรง สภาพคล่องหด ปัญหาก็เลยผุดให้มองเห็นแบบอย่าง ดังเช่นว่า ปัญหาภาคแบงค์ในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งยุโรปในตอนต้นปีนี้ ถึงแม้เศรษฐกิจไทยจะพบเจอกับความท้ามาอย่างสม่ำเสมอ แต่ว่าเศรษฐกิจไทยสามารถผ่านความท้าไปได้ สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพ 

ส่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความท้าทาย

การฟื้นฟูสภาพมีความแจ่มแจ้งขึ้น สะท้อนจากเครื่องบ่งชี้เศรษฐกิจต่างๆทยอยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เป็นต้นว่า จากที่ไม่มีนักเดินทางต่างประเทศเลยในตอนไตรมาส แล้วก็ ปี 63

 แต่ว่าจากต้นปีนี้นักเดินทางต่างประเทศกลับเข้ามาไทยต่อวัน ทยอยใกล้ตอนก่อนวัววิดแล้ว ข่าวเศรษฐศาสตร์ สำหรับมุมมองเศรษฐกิจในตอนที่เหลือของปีนี้ ผู้ว่าการให้มุมมองว่า เศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางฟื้นตลอดจากปีกลาย จากกำลังขับเขยื้อนของภาคท่องเที่ยวรวมทั้งการใช้จ่ายของภาคเอกชน โดยจีดีพีไทยกลับสู่ระดับก่อนกำเนิดวัววิดแล้ว ปีนี้คาดว่าจีดีพีจะอยู่ที่ 3.6% เทียบกับปีกลายที่โตต่ำลงยิ่งกว่า 3% ซึ่งสิ่งชี้นำเศรษฐกิจโดยรวมในตอนช่วงหลังของปีนี้ มีลัษณะทิศทางจะปรับดียิ่งขึ้นจากตอนครึ่งปีแรก อาทิเช่น การส่งออกผลิตภัณฑ์จะปรับดียิ่งขึ้นในตอนช่วงหลังของปีตามการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจโลก ส่วน ด้านเงินเฟ้อโดยรวมมีทิศทางต่ำลง ข้างหลังสาเหตุด้านอุปทานคลี่คลาย แม้กระนั้นยังไว้วางใจมิได้ เนื่องจากยังมีการเสี่ยงสูง จากการส่งผ่านทุนที่บางทีอาจมากขึ้น เพราะเหตุว่าธุรกิจแบกรับทุนสูงตลอดแล้วก็ธุรกิจเล็กน้อยยังกลั้นราคาไว้ รวมทั้งอาจมีแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ตามการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจ โดยยิ่งไปกว่านั้นภาคท่องเที่ยว สำหรับ เสถียรภาพด้านต่างชาติและก็ระบบการคลังของไทยยังแข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งส่วนใดสะท้อนจากเงินทุนสำรองระหว่างชาติที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง แล้วก็ฐานะทางด้านการเงินของสถาบันการเงินไทยที่แกร่ง แต่ว่ายังจำต้องดูแลปัญหาด้านหนี้สินครอบครัวที่ยังอยู่ในขั้นสูงรวมทั้งลดน้อยลงช้า ซึ่งจำต้องใช้เวลาปรับแก้ด้วยเหตุว่าคือปัญหาสะสมมานาน นอกเหนือจากนั้น ผู้ว่าการได้เอ๋ยถึง การเสี่ยงที่จำต้องติดตามในตอนที่เหลือของปีเป็นความไม่เที่ยงของการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจโลก โดยยิ่งไปกว่านั้นผลการฟื้นของเศรษฐกิจจีนต่อเศรษฐกิจทวีปเอเชียรวมทั้งไทย ที่ในพักหลังเศรษฐกิจจีนเติบโตจากภาคบริการ แล้วก็เน้นย้ำเติบโตจากเศรษฐกิจในประเทศลดการพึ่งปัจจัยสำหรับการผลิตจากต่างแดน ทำให้บางทีอาจมิได้เป็นผลดีต่อการส่งออกของภูมิภาครวมทั้งไทยมากมายเท่าในสมัยก่อน ปัญหา น้ำลด โคนผุด” ที่บางทีอาจกำเนิดในจุดอื่นเพิ่มเติมอีก โดยยิ่งไปกว่านั้น non-bank ที่มีปัญหาหนี้สินสูง รวมทั้ง แนวนโยบายรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งแปลกที่อาจจะทำให้เป็นผลใกล้กันต่อเศรษฐกิจ 

แนะนำข่าวเศรษฐศาสตร์ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : แกะผลกำไรแบงค์ไตรมาสแรกผลกำไรพุ่ง จับตาประสิทธิภาพหนี้สินลูกค้ารายใหญ่